Scanner
เป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงข้อมูลเอกสารให้เป็นไฟล์ข้อมูล
ในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น นำรูปภาพจากเอกสารแปลงเป็นไฟล์รูปภาพในระบบคอมพิวเตอร์
หรือแปลงบทความจากนิตยสารเป็นไฟล์รูปภาพในระบบคอมพิวเตอร์
ชนิดของเครื่องสแกนเนอร์
สแกนเนอร์สามารถจัดแบ่งตามลักษณะทั่วๆไปได้ 2 ชนิด คือ
1.
Flatbed scanners
ซึ่งใช้สแกนภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ต่างๆ
2.
สแกนเนอร์ ชนิดนี้มีพื้นผิวโปร่ง
เช่น ฟิล์มและสไลด์
การทำงานของสแกนเนอร์
การจับภาพของสแกนเนอร์
ทำโดยฉายแสงบนเอกสารที่จะสแกน แสงจะผ่านกลับไปมาและภาพ
จะถูกจับโดยเซลล์ที่ไว้ต่อแสง เรียกว่า chage-couple device หรือCCD ซึ่งโดยปกติพื้นที่มืดบน
กระดาษจะสะท้อนแสงได้น้อยและพื้นที่ที่สว่างบนกระดาษจะสะท้อนแสงได้มากกว่า CCD จะสืบหาปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ จากแต่ละพื้นที่ของภาพนั้น
และเปลี่ยนคลื่นของแสงที่สะท้อน กลับมาเป็นข้อมูลดิจิตอล
หลังจากนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการสแกนภาพก็จะแปลงเอาสัญญาณเหล่านั้นกลับมาเป็นภาพ
บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
การเชื่อมต่อของสแกนเนอร์
สแกนเนอร์ใช้การเชื่อมต่อด้วย USB (Universal
Serial Bus) เป็นขั้วต่อที่สามารถต่อกับช่อง USB ช่องใดก็ได้
การใช้งานสแกนเนอร์
1.
เตรียมภาพต้นฉบับ ได้ทั้งข้อความ
ภาพขาวดำ และภาพสี (สแกนเนอร์บางรุ่นสามารถ สแกนวัตถุ 3 มิติได้ เช่นกระป๋อง นาฬิกา เป็นต้น)
2.
เรียกโปรแกรมสแกนภาพ โปรแกรมสแกนภาพจะมาพร้อมกับเครื่องสแกนเนอร์
3.
นำภาพหรือวัตถุที่ต้องการสแกน
วางบนกระจกของสแกนเนอร์ ปิดฝาของเครื่องสแกนเนอร์เพื่อป้องกันแสงภาพนอก
4.
ตั้งค่าการสแกนภาพ เช่น โหมดภาพ
ขนาดภาพ และความละเอียด จากโปรแกรม
- ภาพที่ต้องการนำไปใช้ในงานพิมพ์
ควรกำหนดความละเอียด 150-2400 จุด ต่อนิ้วแล้วแต่ลักษณะงาน
- ภาพที่ต้องการใช้ในการสร้างเอกสารเว็บ
ควรกำหนดความละเอียด 72 จุดต่อนิ้ว
5.คลิกปุ่มเริ่มสแกน (แสดงด้วยคำว่า Preview
หรือ Start Scan เป็นต้น)
ช่วงนี้จะใช้เวลาพอสมควรสำหรับสแกนเนอร์บางรุ่น ทั้งนี้ระหว่างที่สแกนเนอร์ทำงาน
ไม่ควรขยับภาพหรือวัตถุ
6.เมื่อเครื่องทำการสแกนภาพต้นฉบับ
ภาพจะปรากฏบนหน้าต่างโปรแกรม ผู้ใช้สามารถกำหนดหรือเลือกขอบเขตที่ต้องการได้
หลังจากนั้นคลิกปุ่ม Final หรือ Save
(ตามแต่ระบบ)
7.สำหรับการสแกนแบบบันทึกผลลัพธ์เป็นไฟล์
มีหลักพิจารณาดังนี้ หากต้องการนำภาพนั้นไปใช้เป็นภาพต้นฉบับสำหรับงานสิ่งพิมพ์
และมีพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เหลือจำนวนมาก แนะนำให้บรรทุกไฟล์ภาพด้วยฟอร์แมต TIF เนื่องจากจะได้ไฟล์ภาพที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
แต่ถ้าต้องการภาพเพื่อประกอบเอกสารเว็บโดยเฉพาะ สามารถเลือกฟอร์แมตเป็น JPEG ได้เลย ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ได้
ในที่นี้ของแนะนำให้ใช้ฟอร์แมต IPEG